World Bank เตือน !!
ธนาคารโลกเตือน มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ จะเกิดการถดถอยของเศรษฐกิ จโลกในปี 2023
โดยเหล่าสถาบันการเงิน (Development lander) ต่างคาดการณ์ว่า Global GDP หรือค่าผลิตภัณฑ์
โดยธนาคารโลกได้กล่าวว่าสาเหตุ
จากรายงานแถลงการณ์
ธนาคารโลกยังได้กล่าวอีกว่า สภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางจะส่ งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ อระบบเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ (Emerging market) และประเทศที่กำลังพัฒนา (Developing country) เนื่องจากต้องต่อสู้กับภาระหนี้ ที่สูง ค่าเงินของประเทศที่อ่อนตัว รายได้ที่ลดลง และการลดลงของเงินลงทุน โดยมีการคาดการณ์ว่าเงินลงทุนในธุรกิ จต่างๆ ในปี 2024 และปี 2025 จะมีอัตราการเติบโตต่อปีเพียง 3.5% เท่านั้น ซึ่งถือเป็นอัตราการเติ บโตของเงินลงทุนที่น้อยกว่าครึ่ งหนึ่งเมื่อเทียบกับช่ วงสองทศวรรษที่ผ่านมา
จากแถลงการณ์ ของประธานธนาคารโลกคุณ David Malpass ได้กล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจที่หยุ ดชะงักงันและการลดลงของการลงทุ นในธุรกิจต่างๆ จะทำให้เกิดผลร้ายต่อระบบการศึ กษา สุขภาพ ความยากจน และระบบโครงสร้างพื้นฐาน และการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ (Demand) เนื่องมาจากสภาพภูมิอากาศที่มี เปลี่ยนแปลง (Climate change)
จากรายงานของธนาคารโลกยั งแสดงให้เห็นว่า GDP ของประเทศจีนได้ลดลงมาอยู่ที่ ระดับ 2.7% และถ้านับจากปี 2020 เป็นต้นมา ตัวเลขข้างต้นนี้ถือเป็นอั ตราการขยายตัวที่ต่ำสุดเป็นลำดั บสองเมื่อเทียบกับช่วงกลางทศวรรษที่ 1970 ที่เป็นเช่นนี้เนื่ องมาจากนโยบาย zero-COVID ความวุ่นวายที่เกิดขึ้ นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการหยุดชะงักในภาคการบริ โภค ภาคการผลิต และภาคการลงทุน
จากรายงานของธนาคารโลกยั
สำหรับปี 2023 ตัวเลขประมาณการ GDP ของประเทศจีนคาดว่าจะกลับมาอยู่ ที่ระดับ 4.3% แต่ตัวเลขดังกล่าวยังคงอยู่ ในระดับที่ต่ำกว่ าการประมาณการในช่วงเดือนมิถุ นายน 2022 อยู่ 0.9% อันเนื่องมาจากความรุ นแรงของการระบาดของ COVID และความอ่อนแอทางด้านอุปสงค์ จากภายนอกประเทศ
ธนาคารโลกยังตั้งข้อสังเกตว่า แม้แรงกดดันจากเงินเฟ้อจะเริ่ มลดลงแล้วบางส่วนหลังจากผ่านพ้ นปี 2022 เนื่องจากราคาพลังงานและราคาสิ นค้าที่ลดต่ำลง แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงใหม่ๆ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ จะทำให้เกิดการหยุดชะงักทางด้ านอุปทาน (Supply) และอาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้ นฐาน (Core inflation) คงอยู่ในระดับที่สูงต่อไป ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ ธนาคารกลางของแต่ ละประเทศทำการปรับขึ้นอั ตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับที่ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซ้ำเติมให้เศรษฐกิจทั่วโลกยิ่ งเกิดการชะลอตัว
นอกจากนี้ธนาคารโลกยังได้เรี ยกร้องไปยังประชาคมระหว่ างประเทศ (International community) เพิ่มการช่วยเหลือไปยังประเทศที่ มีรายได้น้อยที่มีปัญหาด้ านอาหาร พลังงาน การย้ายถิ่นฐานเนื่ องมาจากความขัดแย้ง และความเสี่ยงของวิกฤตหนี้สิน ธนาคารโลกยังได้อธิ บายอีกว่า เงินทุนและเงินช่วยเหลือชุดใหม่ นั้นมีความจำเป็น ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากเงินทุ นของภาคเอกชนและการใช้ทรั พยากรภายในประเทศเพื่อช่วยกระตุ้ นการลงทุนในด้านการลดผลกระทบที่จะ ทำให้เกิดการเปลี่ ยนแปลงของสภาวะภูมิอากาศ (Climate adaptation) ด้านการบริหารจัดการเพื่อสร้ างคุณภาพให้กับบุคลากร (Human capital) และด้านสุขภาพ
โดยรายงานของคณะกรรมการจากธนาคา รโลกที่จะออกมาในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะมีการพิจารณาแผน "evolution road map" สำหรับสถาบันเองที่จะเพิ่ มความสามารถในการปล่อยสินเชื่ อเพื่อจัดการกับปัญหาการเปลี่ ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและวิกฤตการณ์อื่นๆ ของโลก ซึ่งแผนดังกล่าวจะเป็ นแนวทางในการเจรจากับผู้ถือหุ้ นที่นำโดยสหรัฐอเมริกา ในการปรับปรุงโครงสร้างธุรกิ จของสถาบันครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้ งแต่จัดตั้งขึ้นหลังจากสิ้นสุ ดสงครามโลกครั้งที่ 2
เรียบเรียงโดย: LivingOnTheEgg
ติดต่อ: Facebook
ที่มา: investing.com
Comments
Post a Comment